วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559





จูลาคีล มิฮอว์ค ตาเหยี่ยว เค้าเป็น 1 ใน7เทพโจรสลัด และเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดของโลก เสื้อผ้าที่ตาเหยี่ยวใส่จะเน้นหรูหราและสีจะต้องแดงหรือดำเท่านั้น สร้อยคอของ จูลาคีล มิฮอว์ค ตาเหยี่ยว เป็นรูปกางเขน ทั้งนี้ยังเป็นมีดขนาดเล็กอยู่ด้านในสร้อยคอนั้น ทั้งนี้ จูลาคีล มิฮอว์ค มีนิสัยที่เงียบขลืมทำให้ดูสมเป็นนักดาบ และเป็นเพื่อนของแซงคูสและยังเป็นคู่ต่อสู้ด้วย
มื่อครั้งอดีตมิฮอว์คมีความสนใจในความสามารถของ แชงครูสมากถึง ขั้นจัดเป็นคู่แข่งคนสำคัญที่ต้องเอาชนะให้ได้แต่เมื่อแชงครูสเสียแขนข้าง หนึ่งไปความสนใจในตัวแชงครูสก็หมดไปและมองว่าการเอาชนะแชงครูสในขณะนี้เป็น การเอาเปรียบและเสียเกียจที่เอาชนะคนที่มีแขนเพียงข้างเดียวทำให้ในปัจจุบัน ตำแหน่งนักดาบอันดับหนึ่งยังคงไร้คู่ต่อสู้ ฉายาของเค้าได้มา จากดวงตาสีทองดั่งเหยี่ยวของเค้าประวัติของเค้าไม่เป็นที่เปิดเผยรู้เพียงแต่ว่าเป้นสหาย แชงครูสและเคยปะมือกันบ่อยครั้งแต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าเค้าเป็นทายาทผู้เคยปกครองเกาะคุรากานะในสมัยโบราณซึ่งอาณาจักรนี้ครั้งในอดีตเกิดการสู้รบกัน อย่างรุนแรงทำให้ผู้คนล้มตายมากมายหลงเหลือไว้เพียงซากปรักหักพังเท่านั้น หรืออาจเป็นเพียงว่าเค้าชอบในความสงบจึงมาอาศัยอยู่เพียงชั่วคราว
ในฐานะ 7เทพโจรสลัดผู้ยึดมั่นในคำสัตว์ที่ให้ไว้กับรัฐบาลโลกโดยจะทำหน้าที่ของตน ให้ดีที่สุดโดยจะไม่ทำนอกเหนือคำสั่งเด็ดขาด เปิดตัวในฐานะ7เทพโจรสลัดเป็นคนแรกโดยการแสดงเพลงดาบตัดเรือ กาเลออนยักษ์ของดอนครีกให้ขาดเป็นสองท่อนด้วย ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก  โคคุโตะ โยรุ (The Black Blade Night) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 สุดยอดแห่งดาบดาบอันดับหนึ่ง เป็นการแสดงพลังให้เห็นถึงความกว้างใหญ่และน่ากลัวของโลกแห่งโจรสลัดวันพีชนอกจากความสามารถในเพลงดาบและกระแสคลื่นแห่งดาบที่ร้ายกาจ มิฮอว์คยังเป็นมีความสามารถที่น่าทึ่งในการเดินเรือด้วยโลงไม้ขนาดเล็กและ เทียนเพียงเล่มเดียวผ่านทั้งทะเลน้อยใหญ่รวมทั้งแกรนไลน์ที่มีคลื่นมหาสมุทร ที่น่ากลัวและจ้าวแห่งท้องทะเลคุมพื้นที่อยู่มาได้อย่างง่ายดาย
ในเหตการณ์ครั้งประวัติศาสตร์การประหารราชาโจรสลัด โกล โรเจอร์นั้นมิฮอว์คเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยด้วยวัยเพียง 19 ปีเค้าเฝ้ามองวาระสุดท้ายของราชาโจรสลัดโกล โรเจอร์อย่างเงียบสงบและรับรู้ได้ในทันทีถึงกลิ่นอายของยุคสมัยแห่งความบ้า คลั่งที่กำลังจะมาถึงมีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด



แชงครูสผมแดง หรือที่รู้จักในชื่อจักรพรรดิแดง โดดเด่นที่ผมสีแดงสดมาตั้งแต่ยังเด็ก รอยแผลเป็นที่ตาซ้าย หน้าตาหลอเหลารูปร่างสูงโปร่ง สวมใส่ชุดที่แตกต่างจากโจรสลัดคนอื่นที่มีตำแหน่งสูงซึ่งมักแต่งตัวเต็มยศใน แบบกัปตันแต่สำหรับแชงคูสเค้าชอบที่จะแต่งกายในแบบสบายๆ เสื้อเชิ๊ตตัวใหญ่สีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล สวมเสื้อคลุมสีดำปกปิดแขนซ้ายที่ขาดของเค้าแต่
จะโชแขนขวาและดาบประจำตัวให้เห็นอย่างเด่นชัด นิสัยของเค้าดูซับซ้อนหลายแง่มุม บางครั้งเป็นคนสนุกสนานไม่มีรัศมีแห่งความสูงส่งหรือความมักใหญ่ใฝ่สูง แต่ในบางครั้งกลับดูจริงจังจนน่ากลัวพร้อมที่ฆ่าศัตรูทุกคนที่เข้ามาใกล้  แต่ก็เป็นที่รักของคนทั่วไปทั้งกับพวกพ้องเดียวกันและชาวบ้านทั่วไปแชงคูส ผมแดง  มีตำแหน่งเป็น 1 ใน 4 จักรพร รดิแห่งท้องทะเล ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นโจรสลัด 4 คนที่ปกครองครึ่งหลังของแกรนไลน์หรือ
“โลกใหม่” เป็นหนึ่งในขั้วอำนาจทั้งสามของโลก คานอำนาจกับ กองทัพเรือ และ เจ็ดเทพโจรสลัด ซึ่งกลุ่มสี่จักรพรรดินี้ได้ชื่อว่าเป็นโจรสลัดที่มีฝีมือน่ากลัวและมีชื่อ เสียงน่าเกรงขามไปทั่วโลก โดยการมีอยู่ของสี่จักรพรรดิ์นี้ ต่างจากเจ็ดเทพโจรสลัดตรงที่ไม่ได้มีความเป็นเอกภาพหรือร่วมมือกัน แต่ว่าต่างคนต่างอยู่และเป็นอิสระต่อกัน และมักจะปะทะกันอยู่เสมอนั่นอาจเป็นเพราะว่า
สมาชิกของเหล่าจักรพรรดิล้วนเป็นคนมีฝีมือและมีจำนวนมากจึงไม่มีใครยอมใคร และมักมองว่านายของตนเหนือกว่าคนอื่นนำมาซึ่งการต่อต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิ ด้วยกันเองและทุกครั้งที่ปะทะกันมักเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก แม้ว่าดินแดนโลกใหม่จะอยู่ใกล้จุดสูงสุดของแกรนต์ไลและใกล้วันพีชที่สุดแต่ ก็ไม่มีจักรพรรดิคนใดไปถึงได้นั้นอาจเป็นเพราะเส้นทางเดินเรือของทั้ง 4 คนขัดกันอยู่ต่างคนต่างอยู่ในที่ตั้งของตนไม่กล้าที่จะขยับออกนอกเขตปกครอง
เพราะนั้นอาจหมายถึงการท้าทายที่จะนำมาสู่สงครามครั้งใหญ่และอาจบาดเจ็บ สาหัสจนจักรพรรดิที่เหลืออาจฉวยโอกาศโจมตีซ้ำจนกลุ่มต้องแตกไปนำมาซึ่งการ เสียสมาดุลครั้งใหญ่ในฐานะ 1ใน4 จักพรรดิ แชงคูสดูช่างสมกับตำแหน่งที่ได้มา มีทั้งเพลงดาบที่แข็งแกร่งไม่แพ้แม้แต่กับ หนวดขาวหรือมิฮอร์ค มีพลังฮาคิที่เทียบเท่า ราชาโจรสลัด ด้าน กำลังพลที่ดูจากขนาดเรือที่เล็กกว่าเรือโมบี้ดิกของหนวดขาวไม่มากทำให้คาด
ว่ากำลังพลจึงเกือบเทียบเท่าที่หนวดขาวมีและกำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกทีที่ ปรากฏตัวให้ได้เห็น จึงเป็นอีกกลุ่มโจรสลัดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกซึ้งแม้แต่รัฐบาลโลกยังทำได้ เพียงจับตามองเพียงเท่านั้น  ไม่กล้าที่จะเข้าปะทะโดยตรงเพราะนั่นจะเป็นการเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายทั้งสองฝ่ายนำมาซึ่งการสั่นครอนเสาหลักของโลกกลุ่มโจรสลัดผมแดงของแชงคูสเป็นกลุ่มโจรสลัด
พวกแรกที่ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับสมาชิกในกลุ่มที่ดูธรรมดาแต่ก็ร้ายกาจ มีกัปตันที่ดูสนุกสนานแต่ก็ดูเท่ ความสามารถของแชงคูสครั้งแรกที่ปรากฏเค้าแสดงให้เห็นถึงจิตคุกคามที่ร้ายกาจ ระดับ ราชันย์   ที่แม้แต่จ้าวทะเลที่ดุร้ายยังต้องผงะ จากการที่เค้าเข้าช่วย ลูฟี่ ที่กำลังจะจมน้ำจึงเป็นที่แน่นอนว่าเค้าไม่ใช่ผู้มีพลังผลปีศาจแต่เป็นผู้มี พลัง ฮาคิราชันย์ที่ร้ายกาจเป็นที่เลื่องลือกันทั่วไป
และอาจเรียกได้ว่าไม่เคยแพ้ใครมาก่อน แต่ถ้ามีอาจจะเป็น Teach หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดหนวดดำที่เคยสร้างบาดแผลบนใบหน้าให้แชงครูส ซึ้งในอนาคตอาจเกิดการรบครั้งใหญ่ระหว่างทั้งสองอีกครั้งก็เป็นได้ในอดีตเมื่อครั้งยังเด็ก แชงคูสมีความกะตือรือล้นที่จะเป็นโจสลัดเป็นอย่างมาก เค้าฝันที่จะออกพจญภัยในโลกกว้างเพื่อค้นหาจุดมุ่งหมายในชีวิตของเค้า โดยเค้าเลือกที่จะเป็นเด็กฝึกหัดบนเรือของโกล โรเจอร์
ที่แสนจะอันตรายมากกว่าที่จะอยู่บนเรือโจรสลัดอื่นที่อันตรายน้อยกว่านั้น เป็นเพราะเค้ารู้ว่า โรเจอร์นั้นเป็นบุคคลที่เค้าสมควรเอาเป็นตัวอย่าง  “ในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าแม้วันนี้จะเป็นสุดท้ายของชีวิตก็ตาม”   แม้ว่าแชงคูสจะ อยู่บนเรือในฐานะเด็กฝึกงานที่ทำหน้าทำความสะอาดดาดฟ้าเรือและเก็บกวาดเรือ แต่ในฐานะส่วนหนึ่งของสมาชิกของกลุ่มในบางครั้งเค้าก็จำเป็นต้องต่อสู้ร่วม
กับกลุ่มเพื่อปกป้องชีวิตของตนและเพื่อปกป้องเรือที่เป็นเสมือนบ้านของเค้า วันเวลาผ่านไปวันหนึ่งโรเจอร์บอกลูกเรือทุกคนเกี่ยวกับโรคร้ายของตนและให้ ลูกเรือทุกคนตัดสินใจว่าจะออกจากกลุ่มหรือจะเดินทางไปพิชิตวันพีชพร้อมกับตน ด้วยวัย15ปี ย่างเข้าวัยรุ่นแชงคูสไม่ทิ้งโอกาศนี้เค้าเข้าร่วมในทันทีเพื่อหวังฝึกฝนตน เองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การเดินทางในฐานะลูกเรือของราชาโจรสลัดกินเวลาเพียง 4ปีสามารถไปถึงที่ๆถูกกล่าวขานกันว่า วันพีชถูกซ่อนอยู่แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ มีเพียงสมาชิกไม่กี่คนที่เหลือรอดของกลุ่มโรเจอร์เท่านั้นที่รู้ว่า วันพีชคืออะไรกันแน่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมถึงแชงคูสด้วยที่รู้


คุซัน (クザン Kuzan) หรือฉายาคือ อาโอคิยิ (青キジ Aokiji, ไก่ฟ้าคราม) เป็นตัวละครในการ์ตูนเรื่องวันพีซ เป็นหนึ่งในสามพลเรือเอก ของกองทัพเรือในสมัยที่เซ็นโงคุเป็นจอมพลแห่งกองทัพเรือ
ภายหลังสงครามระหว่างกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวและกองทัพเรือ อาโอคิยิได้ต่อสู้กับอาคะอินุ เพื่อคัดค้านการแต่งตั้งอาคะอินุเป็นจอมพล แต่ได้พ่ายแพ้ให้แก่อาคะอินุ ทำให้เขาลาออกจากการเป็นทหารเรือ
อาโอคิยิ จัดว่าว่าเป็นคนที่สูงมากเมื่อเทียบกับมนุษย์ทั่วไป มักจะแต่งกายด้วย เสื้อกั๊กสีขาวติดกระดุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีขาว รองเท้าสีขาว และเนคไทสีเหลืองตัดด้วยเส้นสีดำ นอกจากนี้อาโอคิยิยังสวมผ้าปิดตาไว้ตรงหน้าผากอีกด้วย
อาโอคิยิ เป็นคนที่ขี้เซา สามารถรู้ได้จากผ้าปิดตาที่อาโอคิยิสวมไว้ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นคนขี้เกียจ ในเวลาว่าง ๆ เขามักจะปันจักรยานเล่นบนทะเลไปตามเกาะต่าง ๆ มีคติประจำตัวคือ "ความยุติธรรมบนความขี้เกียจ" มักทำอะไรตามใจตัวเอง เขาก็ยังทำตามหน้าที่ที่ได้รับโดยยึดมั่นตามความถูกต้องตามแบบฉบับของเขาเอง
อาโอคิยิ มีความสามารถจาก ผลปีศาจ สาย โลเกีย คือผลเยือกแข็ง (ผลฮิเอะ ฮิเอะ) ทำให้เขาสามารถควบคุม, สร้าง และเปลี่ยนร่าง เป็นน้ำแข็งได้ เขาสามารถสร้างน้ำแข็งเพียงพอที่จะแช่แข็งเจ้าแห่งท้องทะเลและปกคลุมทะเลจำนวนหนึ่งได้ภายในชั่วขณะ อาโอคิยิสามารถแช่แข็งคลื่นยักษ์ที่สร้างโดย หนวดขาว ในเวลาต่อสู้ อาโอคิยิสามารถแช่แข็งคู่ต่อสู้ได้เพียงแค่สัมผัสถูกตัวเท่านั้น เขาสามารถเปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นน้ำแข็งเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีได้อีกด้วย



ดองกี้โฮเต้ โดฟลามิงโก้ 1 ในเจ็ดเทพโจรสลัดผู้อยู้เบื้องหลังการกระทำอันโหดร้าย เพราะความสามารถของ ฟลามิงโก้ ที่สามรถบังคับควบคุมคนได้ หรือเรียกความสามารถนี้ว่า นักเชิดมนุษย์ ผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำอันโหดร้ายกับราชาองค์ก่อน ของเมือง เดโรซ่า  โดยเชิดให้ราชาเค่นฆ่าประชาชน ในเมืองแล้วแกล้งทำเป็นผู้ช้วยหลือเมืองเอาไว้เพื่อที่จะได้เมืองมาเป็นของตัวเอง โดฟลามิงโก้เป็นกัปตันกลุ่มโจรสลัดดองกี้โฮเต้ ควบด้วยตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัดที่เขาเข้าร่วมด้วยเหตุผลบางอย่างและจะลาออกจากตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัดทันที หากข้อตกลงไม่ลงรอยกัน สำหรับในโลกใต้ดินโดฟลามิงโก้มีฉายาในว่า “โจ๊กเกอร์”  หรือนักทำลายในโลกมืด เรียกได้ว่าในโลกใต้ดินนั้นเขามีอิทธิพลมากที่สุด ธุรกิจผิดกฎหมาย  โดฟลามิงโก้ มีตั้งแต่ค้าทาส การทดลองสร้างผลปีศาจของ ซีซ่าร์เพื่อสร้างผลปีศาจสาย โซออน และส่งให้ลูกค้า ซึ่งทำให้ผู้มีความผิดก็สามารถรอดพ้นจากการตามล่าของกองทัพเรือได้
โดฟลามิงโก้ ได้เปิดเผยถึงตัวเองว่าเค้าเป็น 1 ใน 20 กษัตริย์ผู้สร้างโลก หรือก็คือเค้าเป็นคนของ เผ่ามังกรฟ้า ที่รัฐบาลโลกคุ้มครองอยู่  นอกจากนี้ยังมีเป็นไปได้สูงมากที่เขาจะรู้เรื่องราวในช่วงร้อยปีแห่งความ ว่างเปล่าอิทธิพลของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าสี่จักรพรรดิเลย อาจเรียกได้ว่าเขาคือจักรพรรดิคนที่ห้า โดฟลามิงโก้มีทั้งสมุนที่อยู่ในโลกใต้ดิน บนดินและแทรกซึมอยู่ในกองทัพ เขาจะจัดการลูกน้องทิ้งอย่างไม่สะทกสะท้านหากคนนั้นหมดประโยชน์หรือทำให้ สัญลักษณ์ของตนต้องมัวหมอง
ความสามารถของโดฟลามิงโก้คือฮาคิแห่งเกราะและฮาคิราชันย์ที่เขาปิดเป็นความลับมาอย่างยาวนาน บวกกับอีกหนึ่งความลับสำคัญของความสามารถในการควบคุมหรือเฉือนวัตถุได้อย่างเฉียบคมคือพลังของผลอิโตะ อิโตะ  (Ito Ito no Mi) ที่สามารถควบคุมเส้นด้ายที่ออกมาจากฝ่ามือได้เหมือนแมลงมุม      นอกจากการควบคุมหรือการเฉือนแล้ว ด้ายที่ออกมาจากมือนั้นยังเพิ่มขนาดและความแข็งแกร่งได้ตามที่โดฟลามิงโก้ ต้องการ รวมทั้งทีเด็ดของความสามารถนี้คือการเชื่อมด้ายเข้ากับเมฆจึงทำให้เขา เคลื่อนที่บนอากาศได้อย่างอิสระจนเหมือนกับเขาบินได้
ดฟลามิงโก้เริ่มแผนการสู่ตำแหน่งราชาโจรสลัดโดยการปล้นเรือขนเงินที่ต้องนำ ไปส่งให้เผ่ามังกรฟ้าและข่มขู่รัฐบาลโลกจนได้เป็นเจ็ดเทพโจรสลัด จากนั้นก็เล็งเป้าหมายไปที่เดรสโรซ่าโดยการสร้างสถานการณ์ให้ราชาริคุทำร้าย ประชาชนและปรากฏตัวออกมาในฐานะวีรบุรุษผู้กอบกู้จนได้กลายเป็นราชาคนใหม่ของ เดรสโรซ่า
โดฟลามิงโก้เข้าร่วมสงครามที่มารีนฟอร์ดโดยเขาได้แสดงถึงฝีมือการต่อสู้ที่ เหนือชั้นจัดการโจรสลัดได้อย่างง่ายดายและไม่สะทกสะท้าน โดฟลามิงโก้ยื่นข้อเสนอให้คร็อกโคไดล์เข้าร่วมทีมกันแต่ถูกปฏิเสธทำให้ทั้งสองคนต่อสู้กับซึ่งผลการต่อสู้ไม่เป็นที่ปรากฏ
ภายหลังสงครามครั้งประวัติศาสตร์จบลง โดฟลามิงโก้ได้รับคำสั่งจากเบื้องของรัฐบาลโลกซึ่งคาดว่าคงเป็น 5 ผู้คุมแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องการกำจัดโมเลียทิ้งตั้งแต่รู้ว่าโมเลียพ่ายแพ้แก่กลุ่มหมวกฟางโดยให้นำแปซิฟิสต้าออกไปจัดการ แม้จะเล่นงานโมเลียจนสะบักสะบอมแต่โมเลียก็ยังหนีไปได้ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าโดฟลามิงโก้ยอมไว้ชีวิตเพื่อให้โมเลียมาเป็นลูกสมุน  แม้โดฟลามิงโก้จะเป็นตัวอันตรายหมายเลข 1 แต่ก็ยังมี 1 คนบนโลกที่ทำให้เขากลัวได้นั่นก็คือไคโด เมื่อรู้ว่าลอว์ไปป่วนการทดลองเขาจึงส่งเวอร์โก้ไปจัดการลอว์อย่างไร้ความปราณี แต่สถานการณ์ที่เป็นลบต่อตัวเองทำให้เขาส่งเบบี้ 5 กับบัฟฟาโล่ไปนำตัวซีซาร์กลับมาพร้อมกับบอกให้โมเน่ยอมตายไปพร้อมกับทุกคนเพื่อให้ซีซาร์หนีรอดไปได้
สถานการณ์ของโดฟลามิงโก้เข้าตาจนทำให้เขามุ่งหน้าไปที่พั้งค์ฮาซาร์ดด้วยตัวเอง โดฟลามิงโก้ได้รับการติดต่อจากลอว์พร้อมกับข้อเสนอให้ออกจากตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัดหากต้องการตัวซีซาร์คืนทำให้เขาโกรธจัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
โดฟลามิงโก้เลือกที่จะจัดการลอว์เขาจึงไล่ตามไปที่พั้งค์ ฮาซาร์ดและจัดการกับทหารเรือโดยใช้ฮาคิราชันย์ โดฟลามิงโก้เล่นงานสโมคเกอร์จนปางตายเพื่อให้สโมคเกอร์ยอมบอกว่าลอว์หนีไปไหน แต่คนที่มาขวางเขาเอาไว้คืออดีตกำลังหลักของรัฐบาลโลกอาโอคิจิ โดฟลามิงโก้ไม่ต้องการต่อสู้กับอาโอคิจิจึงวางมือจากสโมคเกอร์และแกล้งลาออกจากการเป็นเจ็ดเทพโจรสลัด            โดฟลามิงโก้ยังคงเป็นตัวอันตรายเสมอ เขามีผลเมระเมระของเอสอยู่ในมือ โดฟลามิงโก้เริ่มแผนการสวนกลับกลุ่มหมวกฟางและลอว์โดยจัดให้มีการประลองเพื่อชิงผลเมระเมระโดยมีเป้าหมายในการล่อลูฟี่ให้เข้ามาติดกับดักและมุ่งหน้าไปหาลอว์ที่กรีนบิท
โดฟลามิงโก้จัดการลอว์จนอยู่หมัดโดยมีอิชโชช่วยเหลือแต่ลอว์หนีไปได้พร้อมกับชิงตัวซีซาร์ไปด้วย โดฟลามิงโก้สู้กับซันจิและเอาชนะได้ไม่ยากแต่ลอว์ก็มาช่วยเอาไว้ก่อนที่เขาจะเผชิญหน้ากับลอว์อีกครั้งพร้อมกับเปิดเผยความแค้นที่ลอว์เก็บไว้มานานถึง 13 ปี


โปโตกัส ดี เอส (Portgas D Ace) จากวันพีซ ฉายา “เอสหมัดอัคคี” (Fire Fist Ace) หัวหน้าหน่วยที่สองแห่งกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวและทายาทเพียงหนึ่งเดียวของราชาโจรสลัดโกลด์ ดี โรเจอร์ แม้จะเป็นลูกของโรเจอร์แต่เอสก็ไม่ยอมใช้นามสกุลเดียวกัน เขาเกลียดตัวเองที่มีเลือดของโรเจอร์จึงเลือกที่จะใช้นามสกุลของแม่ “โปโตกัส ดี โรจ” (Portgas D Rouge) ผู้หญิงเพียงคนเดียวในวันพีซที่เป็นผู้สืบสายเลือดแห่ง D และเพื่อเป็นการตอบแทนที่แม่ใช้ชีวิตตัวเองแลกกับการถือกำเนิดของตนโดยใบหน้าของเอสมีกระเหมือนกับแม่
เอสปรากฏตัวพร้อมกับการช่วยเหลือลูฟี่จากการตามล่าของสโมคเกอร์ เอสร่วมเดินทางไปกับลูฟี่และขอแยกย้ายเมื่อได้เบาะแสของทีช ซึ่งระหว่างที่ร่วมเดินทางเอสได้เล่าถึงสาเหตุที่ตนเองต้องออกเดินทางเพื่อตามหาทีชและเป้าหมายในการทำให้หนวดขาวขึ้นเป็นราชาโจรสลัด แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่ความสัมพันธ์ระหว่างเอส ซาโบและลูฟี่กลับเหนียวแน่นยิ่งกว่าพี่น้องคลานตามกันมา เอสออกเดินทางเพื่อเป็นโจรสลัดก่อนลูฟี่ 3 ปี และตั้งกลุ่มโจรสลัดของตัวเองขึ้น เอสมีฮาคิแห่งราชันย์และได้รับพลังจากผลไฟ “เมระ เมระ” (Mera Mera no Mi: Flare Fruit) ผลปีศาจสายโรเกียที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นไฟและใช้ไฟเป็นอาวุธในการโจมตีศัตรูจากระยะไกล
เอสในวัยหนุ่มต้องการดวลกับหนวดขาวแต่ผู้ที่มารับมือกลับเป็นจินเบ การต่อสู้ของทั้งสองกินเวลาห้าวันห้าคืนและเอสเป็นฝ่ายกำชัยชนะ หลังจากนั้นเอสได้สู้กับหนวดขาวโดยใช้พลังที่เหลือทั้งหมดแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ซ้ำหนวดขาวยังชักชวนให้เอสเข้าร่วมกลุ่มซึ่งเอสไม่ต้องการ เอสได้ขึ้นไปอยู่บนเรือโมบี้ดิกของหนวดขาวและหาทางโจมตีทุกครั้งเมื่อมีโอกาสแต่ไม่เป็นผล เมื่อเอสได้รับฟังถึงเหตุผลที่โจรสลัดมากมายยอมเข้าร่วมกลุ่มหนวดขาวจากมัลโก้ความคิดที่มีก็เริ่มเปลี่ยนไปและสักสัญลักษณ์ของกลุ่มหนวดขาวไว้ที่กลางหลัง จากผลงานและความสามารถของเอสทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 ของกลุ่มโจรสลัดหนวดขาว แม้จะรู้ว่าตนมาทีหลังแต่การที่ทีชซึ่งเข้ามาอยู่ในหน่วยก่อนเห็นด้วยที่จะให้เอสเป็นหัวหน้าเขาจึงยอมรับมันโดยดีจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทีชสังหารซัจ (Thatch) หัวหน้าหน่วยที่ 4 และหลบหนีไปเป็นเหตุให้เอสต้องออกตามล่าทีช เอสได้พบกับทีชพร้อมกับกลุ่มโจรสลัดหนวดดำ การต่อสู้ของทั้งสองเป็นไปอย่างดุเดือดและจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเอส ทีชนำตัวเอสไปส่งให้ทหารเรือและก้าวขึ้นเป็นเจ็ดเทพโจรสลัด เอสถูกขังที่คุกใต้ทะเลร่วมกับจินเบ เอสขอร้องให้จินเบช่วยดูแลลูฟี่หากตัวเองต้องตายแต่จินเบปฏิเสธเพราะจินเบจะยอมช่วยเหลือแต่คนที่เขายอมรับเท่านั้น ที่ลานประหารหน้ามารีนฟอร์ด เอสถูกถามถึงชื่อของพ่อที่แท้จริงของเขาซึ่งคำตอบคือหนวดขาวแต่เซนโงคุได้ประกาศความจริงออกมาว่าเอสคือลูกชายเพียงคนเดียวของราชาโจรสลัดโกล ดี โรเจอร์ ไม่นานกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวก็มาถึงและสงครามก็ได้เริ่มขึ้น เอสได้รับการช่วยเหลือจากลูฟี่จึงรอดจากการถูกประหาร เอสใช้พลังไฟสู้กับทหารเรือและพลเอกอาโอคิยิซึ่งกินกันไม่ลง หนวดขาวที่อาการแย่ลงจากบาดแผลได้ถามเอสว่าที่ผ่านมาเขาเป็นพ่อที่ดีหรือไม่ แน่นอนว่าคำตอบคือใช่ ก่อนที่เอสจะวิ่งหนีไปตามคำสั่งของหนวดขาว อาคาอินุผู้โหดเหี้ยมใช้คำพูดดูถูกเหยียดหยามหนวดขาวให้เอสฟังทำให้เอสโกรธและหันกลับมาสู้ด้วย แต่พลังไฟของเอสไม่สามารถสู้กับแม็กม่าของอาคาอินุได้ ขณะเดียวกันลูฟี่ที่ร่างกายมาถึงขีดจำกัดตกเป็นเป้าของอาคาอินุ ชั่วพริบตาก่อนที่ลูฟี่จะถูกโจมตีเอสใช้ร่างกายตัวเองเข้ามาขวางเอาไว้ทำให้บาดเจ็บสาหัสและจบชีวิตลงต่อหน้าลูฟี่






โซโรเป็นนักล่าค่าหัวผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบเป็นอาวุธ โดยมีดาบ 3 เล่มเป็นอาวุธประจำตัว มีความใฝ่ฝันเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ตามที่ให้สัญญาไว้กับ คุอินะ เพื่อนสมัยเด็กที่เสียไป หลังจากนั้นถูกนาวาโทมอร์แกนมือขวานจับตัวไปและเจอกับลูฟี่ ลูฟี่เข้ามาช่วยโซโรไว้ และโซโรยังร่วมเดินทางไปกับลูฟี่ด้วย และโซโรเองมีค่าหัว 60 ล้านเบรี หลังจากที่จัดการดาซูบอเนส หรือมิสเตอร์วัน แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านเบรี หลังจากจัดการคาคุซึ่งเป็นหนึ่งใน CP9
ดาบประจำตัวที่โซโรพกไว้เสมอตั้งแต่แรกคือ ดาบสีขาว วาโดอิจิ มอนยิ (เป็นดาบที่จะคาบไว้ที่ปากเวลาใช้ท่าสามดาบ) ซึ่งเป็นดาบที่รับช่วงมาจากเพื่อนสมัยเด็กและสาบานว่าจะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ดาบอื่นที่ใช้ในปัจจุบันอีกสองเล่มคือดาบสีแดง ซังได คิเทซึ เป็นดาบอาถรรพ์ที่ได้มาจากล็อกทาวน์ และ ดาบดำ ชูซุย ซึ่งได้มาจากการสู้กับซามุไรเจเนรัลซอมบี้ ริวมะ (ว่ากันว่าเป็นตัวเอกจากนิยายของ อ.โอดะ แต่เขากลับป่วยจนเสียชีวิต จึงได้เป็นแขกรับเชิญในร่างซอมบี้) ที่ธริลเลอร์บาร์ค จึงทำให้บรู๊ค (สมาชิกเรือเธาด์ซัน ซันนี่คนล่าสุด) ได้เงาของเขากลับคืนมา
โซโรนั้นเคยพบกับเรือตรีหญิงแห่งกองทัพเรือ ทาชิงิ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับคุอินะมาก แต่ในตอนนั้นพวกเขาไม่ระแวงเลยว่าอีกฝ่ายคือกองทัพเรือและโจรสลัด จนกระทั่งมารู้เอาในภายหลัง อย่างไรก็ตาม โซโรไม่กล้าประชันดาบกับเธอ และมักหลีกเลี่ยงอยู่เสมอเพราะไม่อาจลืมภาพคุอินะไปได้
เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของโซโรคือนักดาบอันดับหนึ่งของโลก จูลาคีล มิฮอว์ค เจ้าของฉายาตาเหยี่ยว โซโรเคยประชันกับมิฮอว์คมาครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่ลูฟี่กับเขาไปที่ร้านอาหารกลางทะเลที่ซันจิอยู่และพ่ายแพ้ หลังจากนั้นเป็นเวลานานที่เกาะชาบอนดี้ โซโรที่สะสมความเหนื่อยล้าไว้มากต้องเข้าสู้กับบาโซโลมิว คุมะและเกือบถูกฆ่าโดยคิซารุ แต่ถูกช่วยชีวิตไว้จากราชันย์นรกเรลี่ จากนั้นจึงถูกหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด บาโซโลมิว คุมะซัดกระเด็นไปที่ซากราชอาณาจักรเก่า ที่นั่นเขาได้พบกับมิฮอว์คอีกครั้ง ในเวลานั้นข่าวที่ลูฟี่สูญเสียเอสไปได้มาถึง โซโรจึงดึงดันจะออกจากเกาะไปพบลูฟี่ แต่เมื่อได้รับรหัสที่ลูฟี่ส่งมา จึงเปลี่ยนใจและกลับไปก้มหัวขอให้มิฮอว์คเป็นคนสอนวิชาดาบแก่ตนเอง มิฮอว์คเข้าใจนิสัยโซโรเป็นอย่างดี จึงรับปากสอนหลังจากแผลของโซโรหายดี







ทราฟาลก้า ลอว์  นักศัลยแพทย์แห่งความตาย 1 ใน 7 เทพโจรสลัด เป็นกัปตันหนุ่มของกลุ่มโจรสลัด ฮาร์ด ผู้มีความสามารถในการรักษาโรคต่างๆ ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ที่มือมีการสักไว้ว่า D.E.A.T.H ที่มือข้างซ้ายและเป็นอดีตซูเปอร์โนวาที่โลกจับจ้อง  ทราฟาลก้า ลอว์ เป็นอดีตลูกน้องของ  โดฟลามิงโก้ เขาปรากฏตัวครั้งแรกบนหมู่เกาะชาบอนดี้พร้อมกับเหล่าซูเปอร์โนวาอีกหลายคน
ลอว์เฝ้าดูการต่อสู้ของคิลเลอร์กับนักบวชปิศาจอูรุจด้วยท่าทางสนุก ก่อนจะไปดูการประมูลทาสเพื่อหาสมาชิกใหม่และได้พบกับกัปตันคิด ลอว์ดูการต่อสู้ของกลุ่มหมวกฟางกับเผ่าเท็นริวบิโตะ กระทั่งการปรากฏตัวของเรย์ลี่เขาถึงกับสงบนิ่งเพราะรู้ถึงความอันตรายของเรย์ลี่ ทราฟาลก้า ลอว์ ร่วมมือกับคิดและลูฟี่ต่อสู้กับทหารเรือที่มาขัดขวางการหลบหนีก่อนที่พลเรือเอกจะเดินทางมาถึง
เขาได้แสดงพลังของผลแยกชิ้นส่วน “โอเปะ โอเปะ”  ผลปิศาจสายพารามีเซียที่สามารถแยกชิ้นส่วนของศัตรูและตัดต่อได้ตามใจชอบแต่ ต้องอยู่ในอาณาเขตที่เรียกว่า “รูม”  โดยใช้พลังผลปิศาจร่วมกับดาบยาวที่พกติดตัวอยู่เสมอ ต่อด้วยการสู้กับแปซิฟิสต้าพร้อมกับกลุ่มโจรสลัดคิด ทราฟาลก้า ลอว์ ออกมาอีกครั้งที่ มารีนฟอร์ดพร้อมกับช่วยเหลือลูฟี่กับจินเบจากการตามล่าของทหารเรือ
ขามองดูแชงสที่เข้ามายุติสงครามอย่างสนใจก่อนจะเริ่มแล่นเรือหนีจากการโจมตีของคิซารุ ลอว์เริ่มทำการรักษาอาการบาดเจ็บของลูฟี่และจินเบด้วยใบหน้าอันเจ้าเล่ย์ แฮนค็อกปรากฏตัวบนเรือของลอว์และให้พาลูฟี่ไปรักษาตัวยังบริเวณด้านนอกของอมาซอนลิลี่ เรย์ลี่ที่เฝ้าดูฉากสุดท้ายของหนวดขาวเสร็จก็เดินทางไปพบกับลูฟี่ ลอว์จึงได้แยกตัวออกมา ทราฟาลก้า ลอว์ ก็ได้เข้าไปในโลกใหม่อย่างสบายๆ
ต่อมา ทราฟาลก้า ลอว์ ออกมาปรากฏตัวที่  บนพังค์ ฮาซาร์ด   และมีค่าหัวถึง 440 ล้านเบรี จากเหตุการณ์ที่ ทราฟาลก้า ลอว์ ได้ทำการส่งหัวใจโจรสลัด 100 ดวงไปให้กับศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองทัพเรือจึงได้ดำรงตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัด และได้เผชิญหน้ากับ สโมคเกอร์ ที่ บนพังค์ ฮาซาร์ด และก็สามารถได้ไม่อย่างยากเย็นและได้เอาหัวใจของ สโมคเกอร์ ไป ทราฟาลก้า ลอว์
หลอกซีซาร์เพื่อให้ไว้ใจและมีจุดประสงค์ที่จะทำลายโรงงานผลิต SAD ของ ดองกี้โฮเต้ โดฟลามิงโก้ และได้ทำการแลกหัวใจของตัวเองให้กับ ซีซาร์ และเอาหัวใจของโมเน่มาครองเป็นการแลกเปลี่ยน เป้าหมายที่แท้จริงของ  ทราฟาลก้า ลอว์ คือโค่นล้ม ไคโด หนึ่งในสี่จักรพรรดิ ลอว์มุ่งหน้าไปที่ห้องทดลองของซีซาร์ถูกเวอร์โก้จัดการและถูกขังร่วมกับลูฟี่ โรบิ้น แฟรงกี้ สโมคเกอร์และทาชิงิ ลอว์เริ่มแผนการสวนกลับซีซาร์โดยการปลดโซ่ของตัวเองและปล่อยโซ่หินไคโรเซ กิของคนอื่นออกรวมทั้งของสโมคเกอร์โดยมีข้อตกลงร่วมกัน เขาได้เริ่มทำตามแผนการอีกครั้งโดยบุกเข้าไปที่ห้องทดลองของซีซาร์พร้อมกับ เผยเป้าหมายที่แท้จริงคือการลักพาตัวซีซาร์เพราะซีซาร์เป็นคนเดียวในโลกที่ รู้วิธีผลิต SAD สุดยอดอาวุธทำลายล้าง แต่ลอว์ถูกเวอร์โก้ไล่ตามมาจนทัน
เขาใช้พลังผลปิศาจชิงหัวใจกลับมาแต่ถูกเวอร์โก้โจมตีและถูกชิงหัวใจกลับไป อีกครั้ง ตามด้วยการถูกร่างกายที่แข็งแกร่งของเวอร์โก้กระหน่ำโจมตีและถูกบีบหัวใจจน เขาหมดสภาพพ่ายแพ้ไป ทราฟาลก้า ลอว์ได้หัวใจจากเวอร์โก้กลับคืนมาโดยการช่วยเหลือของสโมคเกอร์ เขารู้ว่าโดฟลามิงโก้ติดตามผลการต่อสู้จากแมลงสื่อสารเขาจึงพูดกับโดฟลามิงโก้ผ่านแมลงสื่อสาร ลอว์พูดจายั่วโมโหให้เวอร์โก้โกรธจนพุ่งเข้ามาโจมตีและแสดงให้เห็นถึงผลการฝึกตลอดสองปีโดยการตัดร่างกายหุ้มเกราะของเวอร์โก้ขาดเป็นสองท่อน
ทราฟาลก้า ลอว์ หนีออกจากห้องทดลองของซีซาร์ เขาไว้ชีวิตสโมคเกอร์เพราะมีจุดประสงค์บางอย่างทราฟาลก้า ลอว์ จับตัวซีซาร์เอาไว้และออกเดินทางไปพร้อมกับกลุ่มหมวกฟาง เขาตัดหัวของเบบี้ไฟว์กับบัฟโฟโล่เอาไว้บนแพฉุกเฉินเพื่อรอให้โดฟลามิงโก้มาพบและบอกให้โดฟลามิงโก้ออกจากดำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัดหากต้องการตัวซีซาร์คืน ทราฟาลก้า ลอว์ นำตัวซีซาร์มุ่งหน้าไปที่กรีนบิทพร้อมกับโรบิ้นและอุซป เขาได้รู้ข่าวจากซันจิว่าโดฟลามิงโก้ยังไม่ได้ออกจากการเป็นเจ็ดเทพโจรสลัดแต่เหมือนจะไม่ทันการเสียแล้ว
ลอว์เผชิญหน้ากับโดฟลามิงโก้และฟูจิโทระ เขายืนยันว่าตนเองกับกลุ่มหมวกฟางเป็นพันธมิตรกันและการต่อสู้ของทั้งสามก็ได้เริ่มขึ้นก่อนที่ลอว์จะแพ้ราบคาบ ทราฟาลก้า ลอว์ เฝ้ารอเวลาที่พอเหมาะและหนีจากการจับกุมของอิชโชโดยลากตัวซีซาร์ไปด้วย ลอว์เข้าช่วยซันจิที่กำลังจะถูกโดฟลามิงโก้เล่นงานและบอกให้กลุ่มหมวกฟางหรือออกไปจากเดรสโรซ่าอันเป็นสัญญาณสิ้นสุดการเป็นพันธมิตร ก่อนที่เขาจะเผชิญหน้ากับโดฟลามิงโก้ตามลำพังพร้อมกับเป้าหมายที่แท้จริงในการยืมมือไคโดฆ่าโดฟลามิงโก้และความแค้นที่เก็บไว้นาน 13 ปี